พ่อแม่เลี้ยงเอง มีคนอื่นเลี้ยง หรือส่งลูกไปสถานรับเลี้ยงเด็กดี

ในสังคมเมืองปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่ คนเป็นแม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน การหาคนช่วยเลี้ยงลูกจึงเป็นประเด็นสำคัญของครอบครัวส่วนใหญ่ มีข้อถกเถียงกันมากว่า การที่พ่อแม่เลี้ยงเอง ให้คนอื่นเลี้ยง หรือส่ลูกไปเลี้ยงสถานเลี้ยงเด็ก อย่างไหนจะดีต่อพัฒนาการด้านสติปัญญาและอารมณ์ของเด็กมากที่สุด แต่ตราบใดที่เด็กได้รับการเอาใจใส่อย่างดีจากคนเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เมื่อโตขึ้นเขาจะไม่เสี่ยงต่อการเป็นเด็กที่มีปัญหาทางอารมณ์ แต่ข้อควรคิดคือคุณภาพของสถานรับเลี้ยงเด็กในประเทศไทยมีหลายคุณภาพหลายระดับแตกต่างกันไปอย่างมาก ถ้าเราต้องทิ้งลูกไว้แล้วออกไปทำงานนอกบ้าน การหาคนมาเลี้ยงเด็กไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ว่า คนๆนั้นมีเวลาว่างอย่างเดียว แต่ต้องมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อการเลี้ยงดู และรับฟังความคิดเห็นต่อการเสนอแนะของเราหรือไม่ กรณีนี้ เช่น เราให้ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นผู้ดูแล ซึ่งเราอาจยุ่งยากกับการปรับทัศนคติ แต่ข้อดีคือเด็กไ้ด้รับความอบอุ่น แต่ถ้าเราจำเป็นต้องส่งลูกไปสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือเินิร์สเซอรี่ เราควรเลือกดูสถานที่ ที่มีอัตราพี่เลี้ยงเด็ก ไม่เกิน 1 ต่อ 3 สำหรับทารกต่ำกว่า 1 ขวบ 1ต่อ 4 สำหรับวัยเริ่มหัดเดิน และอัตรา 1ต่อ 8 สำหรับเด็กวัยก่อนเรียน และควรดูสถานรับเลี้ยงเด็กที่ไ่ม่เปลี่ยนพี่เลี้ยงบ่อย ครูพี่เลี้ยงเด็กต้องใจดี มีความอบอุ่น เอาใจใส่ดูแล มีทัศนคติที่ดีต่อเด็ก และไวต่อการตอบสนองของเด็ก สถานที่กว้างเพียงพอ ต่อการวิ่งเล่นของเด็ก มีเกมส์การละเล่นที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆให้กับเด็ก สถานรับเลี้ยงเด็ก ในปัจจุบันแข่งขันกันในเรื่องความสะอาด และการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก ซึ่งบางที่อาจจะเน้นทางด้านความสะอาด บางที่ไ่เน้นความสะอาดแต่เน้นที่การส่งเสริมพัฒนาการเช่นมีเครื่องเล่นให้เด็ก มีการเล่นกองทราย เนื่องจากสถานรับเลี้ยงเด็กนั้น รับเฉพาะเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ถ้ารับเด็กหลายๆ ช่วงอายุ ก็จะต้องเน้นไปทางด้านความสะอาด สุดท้าย พ่อ แม่ ควรพึงติดตามสังเกตุพฤติกรรมเด็กตลอดเวลา ซึ่งหากเด็กมีปัญหาทางด้านใด สติปัญญา พฤติกรรมหรืออารมณ์ เราจะได้แก้ไขสิ่งเหล่านั้นได้ทัน